บทที่ 4 ได้เวลาทําลายกําแพง Jake Lah (เจค ลาห์) ผู้ก่อตั้ง DAC, HELINOX และ JKL Corporation (Korea)
Poles Hub หรือ ข้อต่อกลางเป็นเพียงจุดเริ่มต้น “ของเล่น” ที่เพิ่มเติมมามากกว่า ( เจค ลาห์ เรียกว่าตัวเชื่อมข้อต่อของเขาแบบน้้น)
เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เจค ได้ออกแบบ คลิปพลาสติก ที่ไม่ได้เลื่อนไปตามเสา หรือโครงสร้างเสาเต็นท์ แบบคันโยกล้อคได้ เพื่อให้การกระจายการรับแรงต้านลมหรือน้ำหนักส่งผ่านไปที่ผ้า ให้มีส่วนร่วม เพื่อเสริมความแข็งแรงและรูปทรงโดยรวมของโครงสร้างเต็นท์ และ “หมวกพลาสติคที่ปลายเสา” คือปลายล็อคเสาทำจากพลาสติก ที่ทำหน้าที่แทนที่ช่องค้ำเสาของเต็นท์แบบแต่ก่อน ที่จะยึดกับ ผ้าคลุมเต็นท์ จากการทดสอบ ในอุโมงค์ลม Wind Lab Tunnel ตัวเชื่อมต่อพลาสติกที่มุมแบบนี้ ทําให้เสถียรภาพของเต็นท์ เพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างได้ถึง 53 %
จน Sally Mccoy (ปัจจุบัน เธอเป็น Executive Chair ให้เจค ใน Helinox) แซลลี่ แม็คคอย ทํางานที่บริษัท Sierra Design ในเวลานั้น และ ในฐานะนักออกแบบเต็นท์ เธอให้ชื่อเล่นเป็นเกียรติ กับการออกแบบพลาสติค ล๊อคมุมของเต็นท์ ของ เจค ว่า Jake’s Foot หรือ “เท้าของแจ็ค” (ตอนนี้การออกแบบดังกล่าว ได้รับการจดทะเบียนเป็น Jake’s Corner หรือ “มุมของแจ็ค” )
การ ปรากฏตัวครั้งแรกในเต็นท์ Hercules ของ Sierra designs ในปี 2002 สามารถทนต่อลม100 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 160.9 กิโลเมตร/ชั่วโมง เนื่องจาก มุมพลาสติกถ้วย Jack’s Foot จับปลายแท่งได้แน่นกว่ารูผ้าเต็นท์ ในอดีต
ตอนนี้ Aluminum Poles เสาเต็นท์อลูมิเนียม ของเจค ก็ได้รับการพัฒนา รุ่นใหม่ เช่นกัน เจค ได้ออกแบบ วัสดุรุ่นใหม่ ที่ มีความคืบหน้าทางนวัตกรรม รุ่นนี้ ของDAC เรียกว่า Featherlight ในปี 1998 ที่ช่วยแก้ปัญหาด้านจุดอ่อนของจุดเชื่อมต่อเสา โดยการเปลี่ยน ท่อเชื่อม แบบสมันก่อน ให้เป็นท่อ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่แตกต่างกัน แต่สามารถซ้อนกันได้ เหมือนท่อน้ำที่ซ้อนกัน
เสาอลูมิเนียม Featherlight NSL แบบนี้ ช่วยให้เส้นผ่าศูนย์กลางของเสาเปลี่ยนไปตามความยาวของมันได้ ดังนั้นส่วนที่ต้องการการดัดโค้งมากที่สุดหรืออ่อนจะดูอ่อนมากขึ้น ในขณะที่ส่วนที่ต้องการความแข็งมากจะยังคงมีส่วนที่เป็นส่วนตรงที่มากขึ้น ดังนั้นการผลิตเสาเพียง 1 ต้น สามารถทำโครงสร้างเต็นท์ได้หลายรูปแบบหลายโค้งตามความต้องการ ของนักออกแบบเต็นท์
พันธมิตรแบรนด์ ของ DAC ได้เพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็ว โดยแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก มีมากกว่า 45 บริษัท ชั้นนำของโลก
หลายๆคนบอกว่า ไม่เพียงเพราะ เจค ได้ให้คำปรึกษา และการดำเนินงานที่ชาญฉลาด ด้วยการผลักดัน การออกแบบเต็นท์ไปยัง พื้นที่และโอกาสใหม่ๆในแต่ละจุดเด่นของบริษัทคู่ค้า แต่ด้วยเค้ายังเคารพในด้านทรัพย์สินทางปัญญา และความลับของพันธมิตรแต่ละแบรนด์แต่ละบริษัทด้วย ดังนั้น เจค จึงประสบความสําเร็จใน การพัฒนาและความร่วมมือของ DAC กับแบรนด์เต็นท์ทั้งหมด ในขณะที่ปกป้องนวัตกรรมของแต่ละแบรนด์ทั้งหมดไปด้วยพร้อมๆกัน
บ่อยครั้งที่ เจค เองก็เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ และนักออกแบบเต็นท์ด้วย ตัวอย่างเช่น เต็นท์ Copper Spur ที่มีชื่อเสียง เป็นตัวท๊อป ติดรางวัลระดับโลกเสมอ (ล่าสุดปี 2022) ที่ผลิตโดย Big Agnes
ก่อนหน้านี้ การออกแบบ ในรุ่นใหม่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นเวลาห้าปี ในตอนที่ เจค เข้ามา ร่วมกันพัฒนา Copper Spur เค้าคิดหาวิธีปรับปรุงการออกแบบที่เรียบง่าย เบา และใช้ได้ดีจริง
จนในที่สุด เขาได้นำเสนอ Bill Gamber ผู้ก่อตั้ง Big Agnes พร้อมวิธีแก้ปัญหาในการลด การใช้ดุมล๊อค จากเดิม 2 ตัวของเต็นท์ ให้เหลือเพียงอันเดียว โดยไม่กระทบต่อ พื้นที่อยู่อาศัยภายใน
“เกือบทุกครั้งที่ผมได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ผมรู้สึกว่า ผมกําลังถูกดันให้ติดกําแพง และ ตอนแรก ผมไม่สามารถทําอะไรได้” เจค ลาห์ กล่าว หลังจากนั้น ผมจะแบบ “โอเค พยายาม พยายาม พยายาม สุ้ สู้ สู้ และสุดท้าย ผมก็อาจจะพบ รอยแตกบนกำแพง หรือ รูเล็กๆที่นั่น และ โอ้! ฉันเจอแล้ว ฉันอาจจะหาทางออกได้ละทีนี้”
ความพยายามในลักษณะดังกล่าว ที่เป็นคาเรคเตอร์ของเค้า ไม่เพียงแต่ช่วยให้เขาแก้ไข Copper Spur เท่านั้น
แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เขาพัฒนาวิธีการผลิต อลูมิเนียม ที่ดีที่สุด และยั่งยืนที่สุดมากขึ้นด้วย เช่น ขั้นตอน การผลิต ที่เรียกว่า Green Anodizing ซึ่งเป็นนวัตกรรม ที่ดีงาม ที่ DAC เปิดตัวในปี 2008 ซึ่ง โดยปรกติแล้ว กระบวนการ การทำ อลูมิเนียมผสม จะมีขั้นตอนที่เรียกว่า การอโนไดซ์ Anodizing ที่ในกระบวนการนีต้อง ใช้กรดและสารเคมีอื่นๆ ที่เป็นอันตรายอย่างมาก ในการกำจัดฟิล์มออกซิเดชัน ที่ทิ้งไว้บนอลูมิเนียมหลังจากที่ผ่านการอบร้อน กระบวนการ อโนไดซ์ Anodizing นี้ยังต้องเตรียมอลูมิเนียม สำหรับทำการย้อมสี และปิดผนึกพื้นผิวไม่ให้เกิดการสึกกร่อน (การย้อมสีเนื่องด้วยความต้องการของลูกค้า และรสนิยมความชื่นชอบในความมันเงาของอโนไดซ์) แต่ เจค ไม่ชอบที่กระบวนการดังกล่าว มีการปล่อยก๊าซเคมีอันตรายเข้าไปในโรงงานของเขา และกระทบกับสุขภาพและอาจจะทำให้คนงานของเขาตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาแปดปี ทุ่มเทเพื่อค้นหาทางเลือกอื่น เขารู้ว่าไม่มีสารเคมีใดที่สามารถขัดอะลูมิเนียมด้วยวิธีที่ไม่เป็นพิษแบบนี้ได้ (แม้แต่ ทาง Alcoa และ อาจารย์ โยดา Yoda ก็ใช้กรดฟอสฟอริก ซึ่งปล่อยก๊าซพิษและสร้างของเสียที่เป็นอันตราย)
เจคและทีมของเขาจึงออกเดินทางเพื่อคิดค้นกระบวนการของตนเอง หลังจากการลองผิดลองถูกมาเป็นเวลานาน DAC พบวิธีกำจัดกรดไนตริกและกรดฟอสฟอริกออกจากกระบวนการอโนไดซ์ นอกจากนี้ น้ำยาทำความสะอาดก่อนการบำบัดความร้อนยังได้รับการปรับปรุงอย่างมากอีกด้วย
“เมื่ออากาศภายในโรงงานของเราดีขึ้นมาก มันก็โล่งใจมาก” เจค กล่าว
เจค จึงมองไปที่กระบวนการทางกล แทนที่กระบวนการทางเคมี และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องจักรในกระบวนการผลิตที่สามารถขัดฟิล์มออกจากเสาได้สำเร็จ ปัจจุบัน อะลูมิเนียม DAC เกือบทั้งหมดใช้กระบวนการนี้ เรียกว่า Green Anodizing
เจค กล่าวถึงความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ และความสามารถพิเศษในการออกแบบเต็นท์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้งานได้ง่ายและด้วยความหลงใหลในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นบ่อยครั้งที่แบรนด์ที่เป็นพันธมิตรกับ DAC จึงต้อง “มีพื้นที่ให้เจค” ให้เค้าได้มีส่วนร่วมด้วยเสมอ “เขาชอบล้ำเส้น ฮ่า ฮ่า เค้าชอบก้าวข้ามขอบเขตงานตัวเองเสมอ เค้ามาช่วยเสนอไอเดีย หรือช่วยออกแบบเลยตลอด ” ไมเคิล กลาวิน MSR Designer กล่าว
“แต่เชื่อผมเถอะ ถ้าเค้าช่วยคุณ คุณกำลังได้รับประโยชน์จากความจริงที่ว่าเขารู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่ มันเหมือน เป็นโปรเจค เป็นของเขาเหมือนกันจริงๆ เขาจะทำให้คุณคลั่งถ้าไม่รู้ว่าเขาเป็นคนดีและมีจิตใจดี เพราะความตั้งใจของเขามักจะเป็นบวกเสมอ” ไมเคิล กลาวิน กล่าวทิ้งทวน
